• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


Article#📢 E81D8 ชนิดของฐานรากในงานวิศวกรรม: คุณลักษณะและจุดเด่นข้อบกพร่อง

Started by Fern751, May 04, 2025, 09:57 PM

Previous topic - Next topic

Fern751

โครงสร้างรองรับ (Foundation) เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของส่วนประกอบ เพราะเหตุว่าเป็นส่วนที่ช่วยรองรับน้ำหนักและถ่ายโอนแรงทั้งหมดทั้งปวงจากโครงสร้างข้างบนสู่ชั้นดินหรือชั้นหินด้านล่าง การเลือกจำพวกของฐานรากที่เหมาะสมกับลักษณะส่วนประกอบและก็ภาวะดินเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์ประกอบมีความยั่งยืนและมั่นคงแล้วก็ไม่เป็นอันตราย ในบทความนี้ พวกเราจะมาเจาะลึกถึงชนิดของโครงสร้างรองรับ คุณสมบัติ จุดเด่น และข้อตำหนิของแต่ละจำพวก เพื่อช่วยทำให้รู้เรื่องและก็เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะควร



🛒✅📌จำพวกของรากฐาน

ฐานรากสามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดหลัก คือ โครงสร้างรองรับตื้น (Shallow Foundation) รวมทั้งฐานรากลึก (Deep Foundation) โดยทั้งสองแบบมีความต่างกันในแง่ของโครงสร้าง การออกแบบ และก็การดัดแปลง

1. รากฐานตื้น (Shallow Foundation)
ฐานรากตื้นเป็นโครงสร้างรองรับที่วางอยู่ใกล้กับผิวดิน และเหมาะสำหรับโครงสร้างที่น้ำหนักไม่มากมายหรือภาวะดินมีความแข็งแรงเพียงพอ โครงสร้างรองรับจำพวกนี้ได้รับความนิยมใช้ในโครงสร้างทั่วไป ดังเช่นว่า ที่พัก อาคารขนาดเล็ก และงานก่อสร้างที่ไม่ซับซ้อน

-------------------------------------------------------------
บริการ เจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ Soil Boring Test วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

ตัวอย่างของรากฐานตื้น
-รากฐานแผ่ (Spread Footing): เป็นรากฐานที่มีการกระจัดกระจายน้ำหนักขององค์ประกอบในพื้นที่กว้าง เหมาะสำหรับตึกที่มีคานและเสาสร้างบนพื้นผิวที่แข็งแรง
-รากฐานแถบ (Strip Footing): ใช้สำหรับรองรับกำแพงที่มีน้ำหนักเบาหรือโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นแถวยาว
-รากฐานแผ่น (Mat Foundation): ใช้สำหรับส่วนประกอบที่อยากกระจัดกระจายน้ำหนักในพื้นที่ขนาดใหญ่ ดังเช่น อาคารสูงในพื้นที่ดินอ่อน

ข้อดีของโครงสร้างรองรับตื้น
-ใช้งบประมาณน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างรองรับลึก
-ก่อสร้างได้ง่ายและรวดเร็วทันใจ
-เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ดินมีความแข็งแรง

ข้อด้อยของโครงสร้างรองรับตื้น
-ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพ
-ไม่อาจจะรองรับองค์ประกอบที่มีน้ำหนักมากได้

2. รากฐานลึก (Deep Foundation)
ฐานรากลึกถูกวางแบบมาเพื่อกระจัดกระจายน้ำหนักของส่วนประกอบไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงอยู่ลึกใต้ผิว เหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินมีความอ่อนตัวสูง

แบบอย่างของโครงสร้างรองรับลึก
-เสาเข็มตอก (Driven Pile): เป็นเสาเข็มที่ถูกตอกลงดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เหมาะสำหรับโครงสร้างขนาดใหญ่
-เสาเข็มเจาะ (Bored Pile): เป็นเสาเข็มที่เจาะดินและก็เทคอนกรีตลงไป เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่อาจจะใช้เสาเข็มตอกได้
-โครงสร้างรองรับเสาเข็มลอย (Floating Foundation): ใช้ในองค์ประกอบที่ต้องการกระจายน้ำหนักในพื้นที่ที่มีการทรุด

ข้อดีของฐานรากลึก
-สามารถรองรับน้ำหนักของส่วนประกอบขนาดใหญ่ได้
-เหมาะกับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการยุบ
-เพิ่มความยั่งยืนให้กับโครงสร้างในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง

จุดอ่อนของโครงสร้างรองรับลึก
-ค่าครองชีพสูงขึ้นมากยิ่งกว่าฐานรากตื้น
-ใช้เวลาแล้วก็แนวทางเฉพาะในการก่อสร้าง
-จำต้องอาศัยการสำรวจดินให้รอบคอบเพื่อคุ้มครองปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

📢📌🛒การเลือกรากฐานที่สมควร

การเลือกจำพวกของรากฐานขึ้นอยู่กับหลายต้นเหตุ เป็นต้นว่า น้ำหนักของส่วนประกอบ สภาพดิน และสภาพแวดล้อม การสำรวจดิน (Soil Investigation) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินแล้วก็เลือกโครงสร้างรองรับได้อย่างเหมาะควร โดยกรรมวิธีการเลือกมีดังนี้:

การวัดน้ำหนักส่วนประกอบ:
จำเป็นต้องคำนึงถึงน้ำหนักของส่วนประกอบและการใช้แรงงาน เช่น ตึกอยู่อาศัย โรงงาน หรือสะพาน
การวิเคราะห์ภาวะดิน:
ทำการเจาะตรวจดินรวมทั้งทดลองคุณสมบัติของดิน อย่างเช่น ความแน่น ความแข็งแรง แล้วก็การซึมผ่านของน้ำ
สภาพแวดล้อม:
พินิจพิเคราะห์เหตุที่บางทีอาจส่งผลต่อรากฐาน เป็นต้นว่า แรงสะเทือน น้ำท่วม หรือดินกระหน่ำ
ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ:
เลือกโครงสร้างรองรับที่สามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่ต้องการรวมทั้งงบประมาณ

🌏✨⚡ตัวอย่างการใช้งานในการก่อสร้าง

บ้านพักอาศัย:
ใช้โครงสร้างรองรับแผ่หรือรากฐานแถบ เนื่องมาจากน้ำหนักของส่วนประกอบไม่มาก และภาวะดินมีความแข็งแรง
อาคารสูง:
ใช้เสาเข็มเจาะหรือเสาเข็มตอกเพื่อรองรับน้ำหนักของโครงสร้างและก็เพิ่มความยั่งยืนมั่นคง
สะพาน:
ใช้ฐานรากเสาเข็มลึกเพื่อกระจายน้ำหนักของโครงสร้างไปยังชั้นดินป้อมคง
โรงงานหรือโกดังเก็บสินค้า:
ใช้ฐานรากแผ่นหรือเสาเข็มตามลักษณะของน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งสภาพดิน

🎯🌏🦖ข้อสรุป

การเลือกจำพวกของรากฐานที่สมควรนับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนและความปลอดภัยให้กับองค์ประกอบ ฐานรากตื้นเหมาะกับส่วนประกอบขนาดเล็กรวมทั้งดินที่มีความแข็งแรง ในเวลาที่รากฐานลึกเหมาะกับองค์ประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินอ่อน การวิเคราะห์สภาพดินรวมทั้งการออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิศวกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้แผนการก่อสร้างสำเร็จได้อย่างปลอดภัยแล้วก็จีรังยั่งยืน

การทำความรู้ความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของฐานรากแต่ละชนิดจะช่วยให้สามารถตกลงใจเลือกโครงสร้างรองรับได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมด้วยช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาวของโครงสร้างในอนาคต
Tags : มาตรฐาน การทดสอบความหนาแน่นของดิน









kaidee20