(https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJFHjCNauznvlPt97ywDqTpRCzGzT1VwZoqyGlWQfXxXvqtU77QqKL2JTvvmJEatuXYXKmNEiuqnEbCm0NkcGdK_CkVwco5zhs54hCtYjaISj53M6_qSNqZxxKwFanT9FhjfzqlgBJUwEF6qha7-RQRObNavMJ-xwkx4jIIl_HyoVb8ZsALBs-yN2Q2Gxm/w640-h366/13e21dc6-5015-487a-8636-205dae533b88.webp)
รถยนต์กินน้ำมันมากผิดปกติ (http://tanasarah.com/2025/02/27/gas/) มักเกิดจากปัญหาในส่วนประกอบสำคัญของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพที่ควรเปลี่ยนทุก 8,000-10,000 กิโลเมตร ไส้กรองอากาศอุดตันซึ่งส่งผลต่ออัตราส่วนอากาศและเชื้อเพลิงที่ควรเปลี่ยนทุก 20,000-40,000 กิโลเมตร หรือหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่อุดตันทำให้การพ่นฝอยไม่สมบูรณ์ ควรล้างทุก 50,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐาน (30-36 psi) ก็เพิ่มแรงเสียดทานและทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน
พฤติกรรมการขับขี่มีผลอย่างมากต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การขับแบบกระชาก เร่งและเบรกกะทันหันทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและใช้น้ำมันมากขึ้น เช่นเดียวกับการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำเกินไป ควรปรับให้อยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม และไม่ควรมองข้ามระบบเบรกที่สึกหรอหรือติดขัด เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ต้องใช้กำลังมากขึ้นเพื่อต้านแรงเบรกที่ค้างอยู่ ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น
การป้องกันปัญหารถกินน้ำมันผิดปกติทำได้ด้วยการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ควรหมั่นตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำตามระยะที่คู่มือแนะนำ ควรเติมน้ำมันเมื่อเหลือประมาณ 1/4 ถัง เพื่อให้ระบบเชื้อเพลิงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ควรปล่อยให้น้ำมันหมดถัง เพราะอาจทำให้ตะกอนในถังน้ำมันเข้าสู่ระบบเชื้อเพลิง นอกจากนี้ ควรปรับพฤติกรรมการขับขี่ให้นุ่มนวล รักษาความเร็วสม่ำเสมอ ไม่เร่งเครื่องโดยไม่จำเป็น และวางแผนเส้นทางให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดซึ่งทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน